เวลาทำการ

จันทร์-ศุกร์

09-00-18.00 น.

เสาร์

09.00-15.00 น.

เราช่วยคุณได้

@miniworld

Travel License : 11/11054

หน้าแรก

/

บทความท่องเที่ยว

/

นครเพตรา จอร์แดน: มหานครลึกลับกลางทะเลทราย กับตำนานแห่งอารยธรรมโบราณที่โลกต้องจารึก

นครเพตรา จอร์แดน: มหานครลึกลับกลางทะเลทราย กับตำนานแห่งอารยธรรมโบราณที่โลกต้องจารึก

06

May

จอร์แดน

นครเพตรา จอร์แดน: มหานครลึกลับกลางทะเลทราย กับตำนานแห่งอารยธรรมโบราณที่โลกต้องจารึก

นครเพตรา (Petra) เมืองหินสีชมพูกลางหุบเขาอันแห้งแล้งของประเทศจอร์แดน ไม่เพียงแต่เป็นหนึ่งในมรดกโลกที่โด่งดังที่สุด แต่ยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “นครที่สาบสูญแห่งโลกอาหรับ” ด้วยสถาปัตยกรรมหินแกะสลักอันน่าทึ่ง ประวัติศาสตร์เก่าแก่ และเส้นทางการค้าที่เชื่อมโลกตะวันตกกับโลกตะวันออก เมืองโบราณแห่งนี้จึงเปรียบเสมือนขุมทรัพย์แห่งอารยธรรมที่รอให้ผู้คนมาค้นพบ

ที่ตั้งของนครเพตรา: เมืองลับแลกลางหุบเขา

นครเพตราตั้งอยู่ในเขต Wadi Musa ทางตอนใต้ของประเทศจอร์แดน โดยอยู่ห่างจากเมืองหลวงอัมมานประมาณ 250 กิโลเมตร ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาหินทรายสีแดงอมชมพู และมีทางเข้าเพียงช่องแคบเล็ก ๆ ที่เรียกว่า ซิก (Siq) ซึ่งเป็นหุบเขาแคบยาวกว่า 1 กิโลเมตร ทำให้ตัวเมืองภายในเหมือนถูกซ่อนไว้จากสายตาของโลกภายนอกอย่างแนบเนียน

ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่ของนครเพตรา

นครเพตราถูกสร้างขึ้นราว 312 ปีก่อนคริสตกาล โดยชนเผ่า นาบาเทียน (Nabataeans) ซึ่งเป็นชาวอาหรับเร่ร่อนที่เปลี่ยนบทบาทมาเป็นพ่อค้าคาราวาน พวกเขามีความชำนาญด้านการค้าและการควบคุมน้ำในเขตทะเลทราย
เพตราจึงเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในฐานะศูนย์กลางการค้าระหว่างอินเดีย อาระเบีย อียิปต์ และโรมัน

1.ในยุคทอง เพตรามีประชากรมากกว่า 30,000 คน
2.เป็นเมืองที่มีระบบชลประทานที่ล้ำสมัย มีเขื่อน อุโมงค์น้ำ และแทงก์เก็บน้ำเพื่อรับมือกับสภาพอากาศแห้งแล้ง
3.มีการแกะสลักหน้าผาให้กลายเป็นวิหาร สุสาน อาคารราชการ และที่อยู่อาศัย

สถาปัตยกรรมอันโดดเด่น

สิ่งที่ทำให้นครเพตราโดดเด่น คือ สถาปัตยกรรมหินแกะสลัก ซึ่งผสมผสานระหว่างศิลปะของชาวนาบาเทียนกับอิทธิพลจากกรีก โรมัน และตะวันออกกลาง เช่น

1.อัลคาซเนห์ (Al-Khazneh) – วิหารแห่งขุมทรัพย์

           1.1.เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวเห็นเป็นอันดับแรกเมื่อเดินผ่าน Siq
           1.2.แกะสลักจากหน้าผาสูง 40 เมตร เชื่อกันว่าเคยใช้เป็นสุสานหรือวิหารศักดิ์สิทธิ์
           1.3.เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของเพตรา

2.เดอะมอนาสเตอรี (The Monastery หรือ Ad Deir)

           2.1.วิหารขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขา ต้องเดินขึ้นบันไดกว่า 800 ขั้น
           2.2.มีขนาดใหญ่กว่าอัลคาซเนห์แต่เรียบง่ายกว่า
           2.3.วิวด้านบนสามารถมองเห็นหุบเขาและทะเลทรายสุดสายตา

3.วิหารกลางเมือง โรงละคร สุสานหลวง และวิหารเทพเจ้า

           แสดงถึงความรุ่งเรืองและการจัดระเบียบของเมืองในฐานะรัฐอิสระ

การค้นพบนครเพตราในยุคใหม่

หลังจากที่เพตราค่อย ๆ เสื่อมสลายจากภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงของเส้นทางการค้า เมืองแห่งนี้ก็ถูกลืมเลือนไปจากความทรงจำของโลกตะวันตก จนกระทั่งปี 1812 นักสำรวจชาวสวิส Johann Ludwig Burckhardt ได้ปลอมตัวเป็นชาวมุสลิมเพื่อเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ และเป็นคนแรกที่นำชื่อ "เพตรา" กลับสู่แผนที่อีกครั้ง

การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกและสิ่งมหัศจรรย์ของโลก

           1. ปี 1985 ยูเนสโก (UNESCO) ขึ้นทะเบียนเพตราเป็น มรดกโลกทางวัฒนธรรม
           2. ปี 2007 เพตราได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ (New7Wonders) ถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวจอร์แดน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของตะวันออกกลาง

เพตราในวัฒนธรรมป๊อปและภาพยนตร์

นครเพตราเป็นฉากในภาพยนตร์ชื่อดังมากมาย เช่น

           1. Indiana Jones and the Last Crusade
           2. Transformers: Revenge of the Fallen
           3.The Mummy Returns 

ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และดึงดูดแฟนภาพยนตร์ให้เดินทางตามรอยอยู่เสมอ

การท่องเที่ยวเพตราในปัจจุบัน

เพตราเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมตลอดทั้งปี มีกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย เช่น

           1. เดินชมอารยธรรมกลางซอกเขา
           2. ขี่อูฐหรือลาเพื่อขึ้นไปยังยอดเขา
           3. เที่ยวแบบ Petra by Night ซึ่งเป็นการชมแสงเทียนและการแสดงพื้นเมืองกลางหุบเขาในเวลากลางคืน

ข้อมูลที่ควรรู้ก่อนเที่ยวเพตรา

1.เวลาเที่ยวแนะนำ: เดือนมีนาคม–พฤษภาคม หรือ กันยายน–พฤศจิกายน
2.ค่าเข้าชม (ข้อมูลอัปเดตปี 2024): ประมาณ 50–70 JD (ดินาร์จอร์แดน)
3.ควรพกน้ำและหมวก เนื่องจากสภาพอากาศค่อนข้างร้อนและแห้ง

นครเพตราไม่ใช่เพียงเมืองโบราณธรรมดา แต่คือ ร่องรอยอารยธรรมอันล้ำค่า ที่เชื่อมอดีตเข้ากับปัจจุบันอย่างงดงาม เป็นปลายทางที่เหมาะกับผู้หลงใหลประวัติศาสตร์ การผจญภัย และธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ เพตราไม่ได้เป็นแค่ “สถานที่ท่องเที่ยว” แต่คือ “ประสบการณ์แห่งชีวิต” ที่คุณจะไม่มีวันลืม

จำนวนผู้เข้าชม 13 ครั้ง